อุตสาหกรรมในประเทศไทยจะเห็นได้ว่ามีการนำเทคโนโลยีระบบอัตโนมัติ (Automation Technology) เข้ามาใช้งานเพื่อให้สินค้าสามารถแข่งขันในตลาดโลกได้ ทั้งในเรื่องราคา และคุณภาพ โดยเฉพาะในเรื่องคุณภาพ อาจเนื่องจากมีการเปลี่ยนรุ่นผลิตภัณฑ์อยู่บ่อยๆ ต้องใช้เวลาในการ Set Up ปัจจุบันจึงมีการนำเทคโนโลยีต่างๆ เข้ามาใช้ หนึ่งในเทคโนโลยีที่มีความยืดหยุ่นสูง ได้แก่ หุ่นยนต์อุตสาหกรรม เนื่องจากการเปลี่ยนการทำงานสามารถทำได้โดยการเปลี่ยนโปรแกรม นอกจากนี้คุณภาพของผลิตภัณฑ์ที่ได้มีความสม่ำเสมอเป็นมาตรฐานเดียวกัน
ปัจจุบันและในอนาคตหุ่นยนต์อุตสาหกรรมจะเข้ามามีบทบาทในอุตสาหกรรมมากขึ้น โดยจะทำงานแทนมนุษย์ในงานต่างๆ เหล่านี้งานที่อันตราย เช่น งานยกเหล็กเข้าเตาหลอม งานที่เกี่ยวข้องกับสารเคมี งานซ้ำซากน่าเบื่อ เช่น งานยกสินค้าจากสายงานการผลิต งานประกอบ งานบรรจุผลิตภัณฑ์งานที่ต้องการคุณภาพมาตรฐานเดียวกัน เช่น งานเชื่อม งานตัด งานที่ต้องใช้ทักษะความชำนาญสูง เช่น งานเชื่อมแนว เชื่อมเลเซอร์ งานที่ต้องใช้ความละเอียดประณีต เช่น งานประกอบชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ งานตรวจสอบ (Inspection) ฯลฯ
1. Articulate Robot มีลักษณะคล้ายคลึงกับแขนของมนุษย์ตั้งแต่ช่วงหัวไหล่ลงไปมีความสามารถในการทำงานและการเคลื่อนที่คล้ายแขนมนุษย์ จึงมักเรียกหุ่นยนต์ชนิดนี้ว่า“แขนกล” และยังเป็นหุ่นยนต์ที่สามารถนำมาประยุกต์ใช้ในงานอุตสาหกรรมได้หลากหลายรูปแบบมากกว่าชนิดอื่นๆ
3. Variable Sequence Robot เป็นหุ่นยนต์ทำงานตามลำดับขั้นตอนที่เปลี่ยนลำดับได้เอง มีความคล้ายคลึงกับแบบที่ 2 แต่ต่างกันที่หุ่นยนต์กลุ่มนี้สามารถปรับเปลี่ยนวงจรที่มีอยู่ได้โดยง่าย ทำให้สะดวกต่อการเปลี่ยนแปลงชุดคำสั่งการทำงานมากกว่าแบบที่ 2
4. Play Back Robot เป็นหุ่นยนต์ทำงานตามชุดคำสั่งที่บันทึกไว้ โดยชุดคำสั่งการทำงานจะถูกบันทึกไว้ในเครื่องบันทึกความจำ ตัวอย่างเช่น ชุดคำสั่งเกี่ยวกับลำดับขั้นตอนการทำงาน และการปรับตำแหน่ง เป็นต้น ชุดคำสั่งดังกล่าวจะถูกเรียกออกมาสั่งให้หุ่นยนต์ทำงานตามที่ได้บันทึกไว้ การบันทึกความจำนั้นนิยมใช้วิธีสอนให้หุ่นยนต์ทำงาน
โดยผู้สอนจับมือหุ่นยนต์ให้ทำงานตามที่ผู้สอนต้องการสมองหุ่นยนต์จะบันทึกข้อมูลได้ เมื่อสอนเสร็จหุ่นยนต์จะทำงานเลียนแบบที่เรียนมานั้นได้
5. Numerical Control Robot หุ่นยนต์ควบคุมด้วยตัวเลข ในหุ่นยนต์แบบนี้คำสั่งบังคับการทำงานของหุ่นยนต์มีลักษณะเป็นตัวเลข (numercial data) ชุดคำสั่งที่ใช้บังคับหุ่นยนต์อาจอยู่ในแถบหรือจานแม่เหล็กหรืออื่นๆ
6. Intelligent Robot หุ่นยนต์คิดเองได้ เป็นหุ่นยนต์ที่มีประสาทรับความรู้สึก เช่น สามารถมองเห็นได้ สามารถตัดสินใจเกี่ยวกับขั้นตอนการทำงานได้
ข้อดีของการนำหุ่นยนต์มาช่วยในการทำงาน คือ
1. สามารถทำงานหนักหรืองานที่เป็นอันตรายที่คนไม่สามารถทำได้ เช่น การจับโหละร้อน ของที่มีพิษ มีรังสี เป็นต้น
2. สามารถทำงานได้ตลอด 24 ชั่วโมง โดยไม่เบื่อหน่าย ไม่ต้องจ่ายค่าล่วงเวลา ไม่ต้องมีเวลาพัก
3. สามารถทำงานได้มีคุณภาพสม่ำเสมอ จำนวนการผลิตเป็นไปตามแผนที่วางไว้
4. สามารถลดปัญหาการขาดแคลนแรงงานได้ เพราะหุ่นยนต์ไม่ต้องลาหยุด ลาพักในทุกรณี อีกทั้งไม่มีการทะเลาะหรือมีความคิดเห็นไม่ตรงกัน
5. สามารถลดต้นทุนในการจ่ายค่าแรงและสวัสดิการต่าง ๆ ได้
2. สามารถทำงานได้ตลอด 24 ชั่วโมง โดยไม่เบื่อหน่าย ไม่ต้องจ่ายค่าล่วงเวลา ไม่ต้องมีเวลาพัก
3. สามารถทำงานได้มีคุณภาพสม่ำเสมอ จำนวนการผลิตเป็นไปตามแผนที่วางไว้
4. สามารถลดปัญหาการขาดแคลนแรงงานได้ เพราะหุ่นยนต์ไม่ต้องลาหยุด ลาพักในทุกรณี อีกทั้งไม่มีการทะเลาะหรือมีความคิดเห็นไม่ตรงกัน
5. สามารถลดต้นทุนในการจ่ายค่าแรงและสวัสดิการต่าง ๆ ได้
ข้อเสียของการนำหุ่นยนต์มาช่วยในการทำงาน คือ
1. หุ่นยนต์มีราคาแพง เป็นการลงทุนที่สูง ทำให้บางอุตสาหกรรมไม่สามารถนำหุ่นยนต์มาช่วยในการทำงานได้
2. หุ่นยนต์ที่ใช้ในการผลิตเป็นการใช้หุ่นยนต์เฉพาะด้านไม่สามารถใช้กับงานทั่ว ๆ ไปได้
3. ต้องปรับปรุงกระบวนการผลิตเพื่อให้สอดคล้องกับการทำงานของหุ่นยนต์ อันจะก่อความยุ่งยากในการดำเนินงาน รวมทั้งต้องลงทุนเพิ่มในการนำหุ่นยนต์มาใช้ในการทำงานอีกด้วย
2. หุ่นยนต์ที่ใช้ในการผลิตเป็นการใช้หุ่นยนต์เฉพาะด้านไม่สามารถใช้กับงานทั่ว ๆ ไปได้
3. ต้องปรับปรุงกระบวนการผลิตเพื่อให้สอดคล้องกับการทำงานของหุ่นยนต์ อันจะก่อความยุ่งยากในการดำเนินงาน รวมทั้งต้องลงทุนเพิ่มในการนำหุ่นยนต์มาใช้ในการทำงานอีกด้วย
อ้างอิงรูปภาพ
https://www.applicadthai.com/articles/%E0%B8%AB%E0%B8%B8%E0%B9%88%E0%B8%99%E0%B8%A2%E0%B8%99%E0%B8%95%E0%B9%8C%E0%B8%AD%E0%B8%B8%E0%B8%95%E0%B8%AA%E0%B8%B2%E0%B8%AB%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B8%A3%E0%B8%A1-industrial-robot-type/
http://www.asiafoodbeverage.com/1906/
http://intimeproduct19.tripod.com/about/Untitled-13.html
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น